พืชหรือดอกไม้ เป็นสิ่งที่ธรรมชาตินั้นสรรสร้างขึ้นมาอย่างน่าเหลือเชื่อทั้งมีความสวยงามมีความแปลกใหม่และแตกต่างพืชแต่ละชนิดส่วนใหญ่นั้นสามารถนำมาเป็นอาหารได้และมนุษย์ก็กินพืชกันมาตั้งแต่ยุคโบราณ และในส่วนของดอกไม้นอกจากความสวยงามแล้วบางชนิดยังสามารถนำมาทานได้แต่รสชาติส่วนใหญ่มักจะไม่ได้อร่อยนักจึงเป็นเพียงการใช้เพื่อตกแต่งจานในร้านอาหาร เนื่องด้วยความสวยงามของมันและหากกินได้ก็จะเพิ่มความน่าทานให้กับอาหารแต่ละจานได้เป็นอย่างดี แต่วันนี้เราจะมาพาทุกท่านไปพบกับพีชและดอกไม้ที่มีพิษร้ายแรงและไม่สามารถนำมาทานตรงๆได้
1.ดอกไจแอนฮอกวีท
จริงอยู่ที่ว่าดอกไม้นั้นเป็นพืชที่ช่วยสร้างความสวยงามให้กับโลกแต่สำหรับดอกไม้สีขาวบริสุทธิ์ประหนึ่งดอกเดซี่นี้ แท้จริงแล้วมันเป็นวัชพืชที่ร้ายแรงมากสะจนเจ้าหน้าที่รัฐของสหรัฐอเมริกาต้องออกมาเตือนภัยกันเลยเดิมทีดอกไจแอนฮอกวีทนั้นเป็นพืชอยู่บนเทือกเขาแห่งหนึ่งในรัสเซียก่อนจะเข้ามาแพร่พันธุ์บนแผ่นดินสหรัฐในช่วงสตวรรษที่20 บ้างก็ว่ามาจากเมล็ดพันธุ์ในมูลนกที่อพยพมาบ้างก็ว่าชาวรัสเซียนำขึ้นเรือมาปลูกเป็นไม้ประดับ แต่ที่แน่ๆมันมีสารเคมีที่สามารถทำให้ผิวหนังไวต่อแสงแดดมาก จนส่งผลให้เกิดแผลผุผองและมีอาการผิวแพ้แดดนานเป็นปีเชียวหละ กลมอนามัยองสหรัฐได้แนะนำว่าหากสัมผัสกับมันเมื่อไหร่ให้รีบล้างออกทันทีด้วยน้ำเย็นและหมั่นทาครีมกันแดดและใส่เสื้อผ้าปกปิดตรงบริเวณนั้นจะช่วยให้อาการทุเลาลงไปบ้างเรียกได้ว่าอาการแพ้แดดแบบนี้ ทำให้นึกถึงแวมไพร์หรือผีดูดเลือกขึ้นมาเลย หรือว่าดอกไม้ชนิดนี้จะเกี่ยวข้องกันกับตำนานแวมไพร์ที่ถูกล่ำลือกันมาอย่างยาวนานกันนะ

2.มะเขือเม่น
มะเขือเป็นผักที่มนุษย์เราใช้เป็นอาหารมายาวนานและประเทศไทยเราก็คุ้นหูคุ้นตากันเป็นอย่างมากกับมะเขือ แต่ไม่ใช่กับมะเขือเม่นชนิดนี้ เพราะแค่หนามตามต้นก็บ่งบอกได้แล้วว่ามันไม่น่าเข้าไกล้เอาสะเลยแต่นอกจากลำต้นและใบของมันจะเต็มไปด้วยหนามหยึกหยักที่จะทำให้นิ้วของคนที่จับเลือดออกได้แล้วมันยังมีสารอันคาลอย ประเภทโพเพนซึ่งเป็นสารที่พืชใช้สำหรับป้องกันแมลงเข้ามาทำอันตรายได้แน่นอนว่าขนาดแมลง ยังอ่วม ภายในเวลาไม่นานหากเป็นมนุษย์คงไม่ต้องพูดถึงจองหัองพยาบาลรอกันได้เลยแต่ถึงพิษสงค์ของมันจะร้ายกาจแค่ไหนแต่ด้วยความสวยงามของตัวดอกทำให้พวกมันเป็นที่นิยมในการปลูกเพื่อความสวยงามเนื่องจากว่าต้นมะเขือเม่น มีต้นกำเหนิดอยู่ในมาดากัสกาและหมู่เกาะแถบมหาสมุทรอินเดีย จึงทำให้มันแพ้อากาศหนาวหากสัมผัสกับอากาศหนาวที่ต่ำกว่าจุดเยือกแข็งกว่าหนึ่งสัปดาห์เจ้าต้นมะเขือเม่นก็จะเหี่ยวเชาไปในที่สุด

3.ต้นโอไฮโอ้บักอาย
คงไม่ต้องบอกหรอกเนาะว่าเราจะสามารถพบเจอต้นไม้นี้ได้จากที่ไหนสำหรับต้นไม้ประจำรัฐ โอไฮโอ้ ของสหรัฐนี้จะมีจุดเด่นตรงผลกลมๆจะมีหนามเล็กๆมากมายและเมื่อกระเถาะเปลือกออกก็จะพบว่าด้านในจะมีเม็ดคล้ายๆกับถั่วอยู่แต่อย่าคิดจะเอาไปคั่วและรับประทานเชียวหละเพราะนอกจากจะไม่อร่อยเหมือนเกาลัดแล้วมันยังมีกรดแทนนิคที่สามารถส่งผลเสียต่อตับและไตของมนุษย์หากบริโภคในปริมาณที่มากแถมยังก่อให้เกิดโรคภัยต่างๆในภายหลังได้อีกด้วย แต่ถึงแม้จะกินไม่ได้จริงๆแต่เรายังสามารถ สะกัดเอากรดแพนนิคเพื่อใช้ในปริมาณน้อยสำหรับการแต่งกลิ่นอาหารและเมื่อก่อนมนุษย์มักจะนำกรดแพนนิคมาใช้เพื่อฟอกเครื่องหนังไปจนถึงชาโคและแมกนีเซี่ยมออกไซด์เพื่อทำเป็นยาถอนพิษครอบจักรวาลมาแล้วด้วยนะ ถึงแม้ต้นไม้หรือพืชบางอย่างจะมีพิษหรือมีอันตรายต่อมนุษย์และสัตว์แต่สารบางอย่างของตัวมันสามารถนำมาช่วยเป็นยารักษาให้ได้อีกด้วยเรียกได้ว่าพืชพันธุ์เป็นสิ่งที่จำเป็นต่อมนุษย์และโลกจริงๆ

4.ผลเดทลี่ไนเชด
เชื่อว่าหลายๆคนคงชอบรับประทานผลไม้ตระกูลเบอรี่ทั้งแบบสดๆและแปลรูปกันอยู่แล้วใช่ไหมหละ แต่รู้หรือเปล่าว่าในป่าแถบยุโรปนั้นมีต้นเบอรี่ชนิดหนึ่งที่ออกผลสีดำสวยสดและน่ารับประทานเป็นอย่างมากแถมยังมีรสชาติหวานอร่อยจนต้องเด็ดขึ้นมากินกันอยู่เรื่อยและในขณะนั้นหน้าก็จะเริ่มแดงปากก็จะเริ่มแห้งชีพจรก็จะเริ่มเต้นเร็วถ้าไม่รีบเข้าโรงพยาบาลแล้วหละก็เตรียมจองศาลากันได้เลย เบอรี่ชนิดนี้อุดมไปด้วยวิตามินอะไรบ้างนั้นเราไม่อาจทราบได้ แต่ที่แน่ๆมันอุดมไปด้วยสาร อันคาลอย สองตัวที่ส่งผลต่อกล้ามเนื้อและหัวใจอย่างรุนแรงและเมื่อบวกกันรสชาติอันแสนอร่อย จึงทำให้มนุษย์สมัยก่อนนั้นนำเบอร์รี่ชนิดนี้มาทำเป็นยาพิษเพื่อล่อสังหารผ่านการใส่ลงไปในไวน์ จนทำให้มันได้รับสมยานามว่า เบอรี่สังหาร นั้นเอง หากมองย้อนไปในสมัยก่อนที่ยังไม่มีข้อมูลอย่างทั่วถึงหรืออินเตอร์เน็ตที่จะค้นหาข้อมูลแต่ละอย่างได้ เจ้าพวกผลไม้ที่มีพิษหรือพืชนี้เป็นยาพิษชั้นดีที่จะนำมาสังหารใครสักคนแบบไม่รู้ตัวกันเลย

5.ถั่วลูกประคำ
บางครั้งเราก็คิดนะคนสมัยก่อนเขาเอะใจกันบ้างหรือเปล่าว่าขอที่พวกเขานำมาเป็นเครื่องประดับนั้นจะปลอดภัยต่อร่างกายหรือเปล่า เจ้าถั่วสีแดงที่ทุกคนเห็นอยู่นี้เป็นอุปกรณ์ เสมือนลูกปัดจากธรรมขาติที่ชาวเขตร้อนมักนิยมนำมาเป็นสร้อยลูกประคำและเครื่องประดับกันเป็นจำนวนมากแต่หารู้ไม่ว่า ภายในของเม็ดถั่วสีแดงสดนั้นมีสารพิษที่ชื่อว่าอบรินที่สามารถดับลมหายใจของมนุษย์ได้ภายในสามวันเจ็ดวัน แม้จะรับประทานไปในปริมาณที่ไม่ถึงสามไมโครกรัมก็ตามโดยสารพิษตัวนี้จะเข้าไปยับยั้งเซลล์จนส่งผลกระทบต่อระบบต่างๆในร่างกายถึงขั้นรุนแรงทั้งเป็นไข้คลื่นไส้อาเจียนไปจนถึงไตวายกันเลยแต่พิษจะไม่ออกฤทธิถ้าผิวของเม็ดถั่วไม่เกิดการฉีกออกดังนั้นถ้าเกิดเผลอกลืนเข้าไปหละก็แนะนำให้ขึ้นเขียงผ่าตัดด่วนหรือไม่ก็สวดมนต์ภวนาไม่ให้เม็ดมันแตกก่อนจะถึงชักโคกก็แล้วกันนับเป็นถั่วที่อันตรายสุดๆไปเลยและยังคุ้นหูคุ้นตาและอยู่ไกล้กับมนุษย์ในสมัยก่อนเพียงนิดเดียว การมีข้อมูลความรู้จึงถือเป็นสิ่งสำคัญในโลกที่น่ากลัวนี้จริงๆว่ามั้ย

6.ดอกโอเลียนเดอ
ภายใต้ความสวยงามของดอกไม้ที่บานสะพรั่งอยู่นั้นเชื่อว่าหลายคนอาจจะคาดไม่ถึงว่าเจ้าดอกไม้ดอกนี้จะเต็มไปด้วยพิษสารพัดหลายชนิดทั้งที่มนุษย์รู้จักและไม่รู้จัก โดยเฉพาะไกโครทราย ที่ส่งผลต่อการเต้นของหัวใจเพียงแค่สัมผัสยางของมันก็ก่อให้เกิดการระคายเคีองได้แล้วและพิษของดอกโอเลียนเดอนั้นจะน่ากลัวที่สุดถ้าเรารับประทานมันเข้าไป แต่ด้วยรสชาติที่ขมของมันทำให้ไม่มีใครคิดสั้นกินเข้าไป ดังนั้นพิษของมันจึงถูกส่งเข้าไปในร่างกายมนุษย์ ผ่านการกินน้ำผึ้งจากการตามเกรสร โดยมันจะส่งผลให้เกิดอาการท้องร่วงชีพจรผิดปกติไปจนถึงขั้นโคม่าและเสียชีวิตไปในที่สุด ถ้าคุณกินน้ำผึ้งแล้วเกิดอาการอย่างที่ว่ามาละก่อรีบไปโรงพยาบาลด่วนเลยนะด้วยความปราถณาดี เพียงแต่มักจะมีอยู่ในน้ำผึ้งป่าและพบได้น้อยมาก สำหรับคนที่ชอบกินน้ำผึ้งสบายใจได้เลย
