สาว ๆ คะ ในยุคสมัยที่ชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยความเครียด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องเจอภาวะความกดดันอยู่เสมอ ทั้งเรื่องการงาน การเรียน เพื่อน หรือแม้กระทั่งครอบครัว แค่ออกไปข้างนอกบ้านก็ต้องมีเหตุทำให้อารมณ์เสียทุกที ไหนจะอากาศที่ร้อน รถที่ติด จนบางครั้งก็คิดว่าอยากจะนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ดันเบื่อห้องตัวเองได้ซะงั้น แล้วสาว ๆ เคยคิดหรือไม่คะว่า หากเราเปลี่ยนห้องของเราที่น่าเบื่อ มาเป็นห้องที่ช่วยทำให้เราสดชื่นด้วยต้นไม้ทุกครั้งที่เปิดประตูเข้ามา มันจะดีแค่ไหนกันนะ ? จริงแล้ว การ แต่งห้อง
Month: October 2021

ต้นไม้บางชนิดสามารถเติบโตได้เอง โดยไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มาก โดยเฉพาะพันธุ์ไม้เหล่านี้ที่เป็นไม้ในร่ม ใครที่คิดว่าตัวเองปลูกต้นอะไรก็ไม่รอด จะลองฝีมือปลูกต้นไม้เหล่านี้ดูก็ได้รับรองรอด เพราะโตง่าย ไม่ต้องให้ดูแลมากมาย 1.ว่านหางจระเข้ เป็นพืชที่มีประโยชน์มาก และในฐานะที่ว่านหางจระเข้เป็นพืชอวบน้ำจึงต้องการน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ต้องการแสงแดดสว่าง และว่านหางจระเข้เป็นพืชที่สามารถเติบโตไปได้เรื่อยๆ เป็นเวลาหลายปีภายในภาชนะเดียวกัน 2.บัวดอย หรือผู้เฒ่าลืมไม้เท้า เป็นต้นไม้ที่ทนทานมากสามารถอยู่รอดได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะแสงน้อย รวมไปถึงสภาพอากาศที่แปรปรวน ได้ทั้งร้อน และหนาว 3.แก้วกาญจนา หรือเขียวหมื่นปี ต้นไม้ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แม้จะชอบอุณหภูมิที่ไม่สูงมากนัก

กระแสการปลูกต้นไม้ในบ้าน หรือในห้องที่มีพื้นที่จำกัด กลายมาเป็นเทรนด์สุดแรงก็ว่าได้ หลายคนเริ่มมองหา ต้นไม้ที่จะเข้ามาตกแต่งให้ในบ้านดูสบายตา และให้เป็นพื้นที่สีเขียว หนึ่งในต้นไม้ที่ได้รับความนิยมสูงมากเลย ก็คงหนีไม่พ้นต้นมอนสเตอร่า ที่มีใบสุดงดงาม ซึ่งมีความสามารถในการฟอกอากาศ ดักเก็บฝุ่น ยิ่งในช่วงนี้มีปัญหาฝุ่นเริ่มกลับมาอีกครั้ง การมีมอนสเตอร่าอยู่ในห้องจะยิ่งช่วยเพิ่มอากาศบริสุทธิ์ได้อีกไม่น้อยเลยล่ะค่ะ สำหรับมือใหม่ หัดเลี้ยงต้นมอนสเตอร่า ต้องทำอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลยค่ะ ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับมอนสเตอร่ากันก่อนดีกว่าค่ะ มอนสเตอร่าเป็นต้นไม้ที่อยู่ในเขตร้อนชื้น ซึ่งเหมาะกับภูมิประเทศไทยเป็นอย่างมากค่ะ มอนสเตอร่านั้น ไม่ชอบแดดจัดจนเกินไป ต้องการแค่แสงแดดรำไร เพื่อให้สามารถสังเคราะห์แสง และเจริญเติบโตได้ค่ะ

วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับ “ต้นไม้รากอากาศ (Air Plant)” เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลอะไรมาก ขอแค่มีแสงแดด น้ำ อากาศ และมีที่ให้ยึดเกาะก็เติบโตได้แล้ว ไม้รากอากาศ มีความอึดเหมือนต้นแคคตัส และที่สำคัญคือไม่ต้องใช้ดินในการปลูก แถมยังสวยและใช้ประดับบ้านของเราให้สดชื่นเหมือนต้นไม้ทั่วๆ ไปได้อีกด้วย วันนี้เราจะจะมาแนะนำต้นไม้รากอากาศให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันว่ามีต้นอะไรบ้าง และมีวิธีการเลี้ยงดูกันอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย ทิลแลนด์เซีย (Tillandsia ionantha Planch) ต้นไม้รากอากาศต้นแรกที่จะมาแนะนำนั่นก็คือ ทิลแลนด์เซีย (Tillandsia) หรือสับปะรดอากาศ เป็นไม้ในวงศ์ของสับปะรดสี

ใครเป็นมือใหม่ที่กําลังเริ่มคิดจะปลูก “แคคตัส” ต้นไม้ทะเลทรายสุดสวยที่กําลังเป็นที่นิยมอย่างมาก นอกจากจะสวยแล้ว ยังดูแลง่ายอีกด้วย บางคนที่กําลังเริ่มเลี้ยงแคคตัสคงสงสัยกันใช่มั้ยครับ ว่าเจ้าพืชทะเลทราย มีการดูแลอย่างไร? ใช้อะไรในการปลูก? ชอบดินแบบไหน? ปุ๋ยแบบไหน? แล้วต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้างในการเลี้ยงดู? วันนี้เราเลยมาแนะนําอุปกรณ์สําหรับปลูกแคคตัส และวัสดุสําหรับใช้เตรียมดินว่ามีอะไรบ้าง ถ้าพร้อมไปดูกันเลย อุปกรณ์เบื้องต้น เราจะพาเพื่อนๆ มาดูอุปกรณ์ในการเลี้ยงดูแคคตัสกันก่อนนะครับ ว่าเราควรมีอะไรบ้าง โดยอุปกรณ์หลักๆ จะมีดังนี้ กระถางสําหรับปลูกแคคตัส ควรใช้กระถางที่มีรูระบายน้ําได้ดี เลือกใช้กระถาง ตามขนาดของต้นแคคตัส พลั่วสําหรับใช้ตักดินขนาดเล็ก พู่กันระบายสี ใช้สําหรับผสมเกสร ฟอเซป ใช้สําหรับคีบเคลื่อนย้ายต้นแคคตัสขนาดเล็ก

จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับต้นไม้ที่กระแสกำลังมาแรงอีกต้นเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทั้งสวยช่วยฟอกอากาศ แถมยังมีผลทางใจ ช่วยเรื่องโชคลาภ กวักเงินกวักทองเข้าบ้าน ไม่รู้จักไม่ได้แล้ว นั่นก็คือเจ้าต้น “กวักมรกต” นั่นเอง เชื่อว่าหลายๆ บ้านต้องมีติดบ้านกันอยู่บ้างแหละ สำหรับใครที่ไม่รู้จักว่าหน้าตามันเป็นยังไง ปลูกยังไง ดูแลยังไง หาซื้อได้ที่ไหน ถ้าอ่านจบแล้วต้องอยากหามาปลูกไว้ในบ้านแน่นอนจ้า “ กวักมรกต ” คืออะไร ? กวักมรกต เป็นไม้หัวขนาดเล็ก ลำต้นเรียวยาว

ชาวไม้หนาม มาทําความรู้จักกับโรคร้ายของแคคตัส พร้อมวิธีการดูแลรักษา ให้ชาวไม้หนามมือใหม่เอาตัวรอดกับโรคร้ายที่จะมาในฤดูฝนนี้ ระวังอากาศชื้นๆ แถมแดดไม่มี จะทำให้เกิดโรคเพียบบ!! อย่าปล่อยให้น้องป่วย มาศีกษาเตรียมพร้อมกันดีกว่า จะมีโรคอะไรบ้างมาดูกันเลย โรคแคงเกอร์ (Canker) หรือ โรคขี้กลาก โรคแคงเกอร์ หรือ โรคขี้กลาก เป็นโรคแคคตัสที่พบได้บ่อยในพวกตระกูลแอสโตรไฟตัม มีลักษณะเป็นสะเก็ด ขรุขระและแข็ง มีสีน้ําตาลนูนขึ้นมา ยิ่งปล่อยไว้นานจะยิ่งใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ทําให้ผิวต้นแคคตัสของเราไม่สวย แล้วพออาการหนักก็ทําให้แคคตัสของเราตายได้เลยเหมือนกันนะ มันสามารถรุกลามไปยังต้นอื่นๆ ผ่านทางน้ําฝนและน้ําค้างได้ด้วยนะ ป้องกันโรคยังไง? ก่อนที่เพื่อนๆ จะซื้อแคคตัสทุกครั้ง
สำหรับเพื่อนๆ ที่กำลังจะเริ่มเลี้ยงหรือกำลังจะสร้างโรงเรือนสำหรับแคคตัสและไม้อวบน้ำ จะมี 3 สิ่งที่ส่งผลต่อการเจริญเติบโตคือ ดิน, น้ำ และแสงแดด วันนี้เราเลยจะมาแชร์เทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่ส่งผลใหญ่หลวงสำหรับการเจริญเติบโตของแคคตัสกันฮะ โดยเฉพาะแสงแดดนั้นมีความสำคัญมาก เราจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ ดังนั้นเราต้องรู้ว่าแสงแดดที่เหมาะสมกับต้นไม้ของเราควรเป็นแสงแดดแบบไหน? และทำไมทุกคนถึงให้ความสำคัญกับการเลือกซื้อสแลน (ตะข่ายพรางแสง) ไปหาคำตอบกันเล้ยยย! แสงแดดที่ชอบ มาในเวลาที่ใช่ สิ่งแรกที่เราต้องรู้เมื่อเลี้ยงแคคตัส คือเจ้าแคคตัสเนี่ย ต้องการแสงแดดตลอดทั้งวัน หรือยิ่งมากยิ่งดี แต่ถ้าไม่สามารถรับได้ทั้งวัน ก็ควรจะเป็นแดดครึ่งวันเช้า ประมาณ

ในยุคที่ต้นไม้อย่าง “แคคตัส” กลายเป็นต้นไม้ที่ได้ความนิยมเป็นอย่างมาก ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ใครๆก็ปลูกแคคตัสกัน ทั้งปลูกเพื่อประดับตกแต่ง หรือขยายพันธุ์เพื่อสะสมเป็นงานอดิเรก วันนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆ ของเจ้าแคคตัสไม้จิ๋วแสนน่ารักนี้ ว่านอกจากจะตั้งประดับตกแต่งเพิ่มความสวยแล้ว เจ้าแคคตัสของเรายังสามารถสร้างรายได้เสริมให้เราได้ง่ายๆ และทำได้จริงอีกด้วย ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้จักสายพันธุ์ต่างๆของแคคตัส ว่าแคคตัสสายพันธุ์ไหนเป็นที่นิยมของตลาด ราคากลางที่จำหน่ายกันทั่วไป เพื่อที่จะได้ให้คำแนะนำลูกค้าของเราได้ ว่าแคคตัสของเราแต่ละสายพันธุ์ชื่ออะไร จุดเด่นของแต่ละสายพันธุ์ เลี้ยงอย่างไร และดูแลอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้ามีความสนใจที่จะอยากเลี้ยง และซื้อแคคตัสจากเราไปเลี้ยง แล้วเราจะขายที่ไหนดี? ขายที่ไหนได้บ้าง? น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตเลยก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้เราเข้าถึงตลาดออนไลน์มากขึ้น การหารายจากแคคตัสได้ผ่านช่องทางออนไลน์ครับ ซึ่งมีหลายหลายช่องทางมากๆ
ในการปลูกแคคตัสหรือต้นไม้นั้น สิ่งสำคัญที่คนปลูกจะให้ความสำคัญอันดับต้นๆ ก็คือดินที่ใช้ปลูกแคคตัสนั่นเองครับ วันนี้สวนหลังบ้านเลยจะมาชวนคุยกันเรื่อง “พีทมอส (Peat Moss)” ที่นิยมนำมาใช้เพาะเมล็ด และเป็นส่วนผสมในวัสดุปลูกกัน “พีทมอส” คืออะไร? เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า “พีทมอส (Peat Moss)” ที่เป็นเหมือนดินละเอียดๆ นี้คืออะไร ความจริงแล้วพีทมอส เกิดจากคำว่า Peat คือซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมกันมานาน และคำว่า Moss คือพืชจำพวกมอส มีหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะมอสตระกูลสแฟคนั่มพีทมอส (Sphagnam) ที่ตายแล้ว เกิดการทับถมกันมาเป็นเวลาหลายพันปี เราจะพบพีทมอสอยู่ชั้นล่างของสแฟคนั่มมอสที่ยังมีชีวิต การที่จะเกิดพีทมอสได้หนาประมาณ 2-3 ฟุต ต้องใช้เวลาสะสมและย่อยสลายกว่าพันพันปีเลยนะ