6 พืชกินสัตว์สุดแปลก

พื้นฐานของห่วงโซ่อาหาร เราทุกคคนนั้นรู้กันดีอยู่แล้วว่าพืชนั้นสังเคราะห์แสง หล่อเลี้ยงให้เติบโตผลิตดอกออกผลสัตว์มากมายหลายชนิดก็มักกินพืช และสัตว์ที่ใหญ่กว่าก็มักกินสัตว์เล็กอย่างไรก็ตามในโลกแห่งธรรมชาติก็มีข้อยกเว้นอยู่เสมอ ดังที่เห็นได้จากพืชที่ดึงดูดดักจับและย่อยสัตว์ที่ส่วนใหญ่เป็นแมลง แต่ยังรวมไปถึงหอยทากกิ้งก่า หรือแม้แต่สัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมขนาดเล็กเป็นค้างคาวด้วย แต่ว่าพืชกินสัตว์หรือคนส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่าพืชกินแมลง พืชกินสัตว์ส่วนใหญ่มักจะเจริญเติบโตในพื้นที่ที่มีธาตุอาหารต่ำและปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่จำกัด ไม่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตซึ่งโดยปกติพืชส่วนใหญ่จะดูดซึมธาตุในโตเจนจากดินผ่านทางรากแต่ว่าพืชกินสัตว์จะได้รับสารอาหารหรือในโตเจนจากการย่อยสลายของเหยื่อที่เข้ามาติดกับดักพืชกินสัตว์ส่วนใหญ่จึงมีการปรับเปลี่ยนใบให้มีความหล้ายกับ กับดักที่สามารถดักจับและย่อยซากแมลงและอื่นๆ เพื่อให้ได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอและสามารถเจริญเติบโตอยู่ต่อไปได้เรียกได้ว่าเป็นพืชที่มีความมหัศจรรย์ขนาดชาวนาวินยังหลงใหลนำพืชกินแมลงจำพวกหยาดน้ำค้างมาเลี้ยงเป็นงามอดิเรก ส่วนพืชชนิดใดบ้างที่กินสัตว์กินแมลงเป็นอาหารตามพวกเรามาพบคำตอบใน 6 พืชกินสัตว์สุดแปลกกันได้เลย

1.หม้อข้าวหม้อแกงลิง

เมื่อพูดถึงพืชกินสัตว์อันดับต้นๆที่ทุกคนพูดถึงก็คงหนีไม่พ้นต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงที่พัฒนาใบให้เป็นทรงเหยือกหรือหม้อไว้ใช้ในการดักในการดักจับแมลงให้ตกลงไป และย่อยสลายกลายมาเป็นสารอาหารหล่อเลี้ยงต้นซึ่งต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงนั้นมีหลากหลายสายพันธุ หลายรูปทรงหลากหลายขนาดทั้งนี้เพื่อการแรกเปลี่ยนกันในทางระบบนิเวศบางสายพันธุก็มีสัญญานให้เรียกค้างคาวให้เข้ามานอน บางสายพันธุก็หลายเป็นกระโถนใช้ในการขับถ่ายของพวกกระแต กระรอกหนู ซึ่งต้นไม้ก็จะได้รับในโตเจนที่อยู่ในมูลสัตว์นั้นๆมาเป็นอาหาร ปัจจุบันต้นหม้อข้าวหม้อแกงลิงได้รับควมนยมในกลุ่มคนเลี้ยงไม้ประดับแปลกๆและยังมีคุณประโยชน์ช่วยกำจัดแมลงสร้างปุ๋ยธรรมชาติโดยไม่ใช้สารเคมีนอกจากนี้ทางภาคใต้ยังนิยมนำหม้อข้าวหม้อแกงลิงมารับประทานเป็นผัดจิ้มน้ำพริกและนำกระเพาะของมันมาทำเป็นของหวานข้าวเหนียวหม้อแกงลิง ที่มีส่วนประกอบของข้าวเหนียวกับกะทิเป็นหลักได้อีกด้วย

2.ลิลี่งูเห่า

นักพฤศาสตร์ได้ค้นพบลิลี่งูเห่าครั้งแรกในหนองน้ำทางตอนเหนือของรัฐ แคลิฟอร์เนีย ในปี 1841 โดยรากของมันจะฝังอยู่ใต้ดินส่วนใบจะแทงขึ้นพ้นพื้นดินมีลักษณะเป็นกลอ มีกวยที่ยกขึ้นเป็นหลอดด้านหนึ่งจะโค้งงอเป็นรูปโดมจนไปชนปลายกวยอีกด้านหนึ่ง เหลือไว้เพียงกวยเล็กๆพอให้แมลงมุดขึ้นไปได้มองดูคล้ายกับหัวของงูเห่าที่แผ่แม่เบี้ยฝากวยมีใบยื่นออกมาคล้ายกับลิ้นงูสองแชกยอดโดมที่มีผิวใสจนแสงส่องทะลุได้และมีกลิ่นหอมของน้ำหวานที่ผลิตขึ้นจากปากทางเข้าเป็นตัวหลอกล่อ ให้แมลงเดินเข้าไปยังกับดักเมื่อแมลงเดินไปถึงขนละเอียกและแหลมคมซึ่งหันไปในทิศทางต่างกันทำให้แมลงนั้นไม่สามารถเดินย้อนกลับได้และจะค่อยๆหมดแรงและร่วงลงบนก้นบึ้งของต้นที่มีของเหลวและมีแบคทีเรียเป็นตัวกลางในการย่อยสลายแมลงให้กลายเป็นอาหารต่อไป ถือได้ว่าเป็นพืชที่น่ากลัวสำหรับแมลงอีกหนึ่งชนิดที่สวยงามและแปลกตาเป็นอย่างมาก

3.สัปปะรดสี

พืชสายพันธุสัปปะรดสีกินแมลง อย่างสายพันนี้สามารถเติบโตได้ในดินที่มีสารอาหารต่ำหรือแม้กระทั่งบนกินเรียบๆเนื่องจากพืชชนิดนี้สามารถรับสารอาหารและน้ำอย่างเพียงพอผ่านลิ้นดูดคล้ายแทงและการดูดซึมอ่านใบจากการย่อยสลายซากสัตว์เพียงอย่างเดียว สัปปะรดสีกินแมลงจะมีแทงที่ดักแมลงบรรจุซากสัตว์เอาไว้ ส่วนมากจะเป็นแมลงจำพวกมด ซึ่งซากสัตว์เหล่านี้ถูกใช้เป็นอาหารให้แก่พืชอย่างไรก็ตามแทงและของเหลวดังกล่าวยังเป็นที่อยู่อาศัยให้กับตัวอ่อนของยุงได้เช่นเดียวกับของเหลวในพืช ในกลุ่มเดียวกับหม้อข้าวหม้อแกงลิงซึ่งตัวอ่อนของยุงจะทำหน้าที่สร้างในโตเจนให้กับพืชและยังช่วยย่อยสลายซากแมลงที่ตายอยู่ในกับดักอีกด้วย กับดักของต้นสัปปะรดประกอบขึ้นด้วยใบที่ซ้อนๆกัน โดยใบของพืชซ้อนกันการตั้งชันของใบทำให้เกิดหลุมตรงกลางต้นคล้ายแทงและใบยังมีลักษณ์พื้นผิวปกคลุมไปด้วยผงแป้งคล้ายแวกเคลือบให้ผิวลื่นทำให้แมลงนั้นลื่นตกลงไปได้ง่ายและไม่สามารถบินขึ้นมาเพื่อหนีออกจากแทงได้ง่ายๆ นอกจากนี้กับดักของต้นเล็กที่มีอายุน้อยมักจะดักสัตว์ได้ดีมากกว่าต้นใหญ่ที่มีอายุมากเพราะจะมีกลิ่นล่อแหลงที่โดดเด่นมาก แต่ต้นขนาดใหญ่จะจับเหยื่อจำพวกด้วงได้มากกว่าพืชที่มีขนาดเล็ก เพราะต้นที่ใหญ่กว่า

4.หยาดน้ำค้าง

หยาดน้ำค้างเป็นพืชในวงหญ้าน้ำค้างใช้ใบในการดักจับแมลงมีใบเดี่ยวเรียงเวียนสลับและซ้อนกันแน่นเป็นแนวรัศมีแผ่นใบ มีขนต่อมสีแดงปกคลุมจำนวนมากปลายใบมีน้ำเมือกเหนียวไว้คอยดักจับแมลงเมื่อมีแมลงมาติดขนเหล่านี้จะผลักดันให้แมลงตกลงเข้าไปข้างในขณะที่ใบจะอุ้มรอบตัวแมลงไว้ก่อนที่จะหลั่งเอนไซออกมาย่อย และสารอาหารจากเหยื่อจะถูกดูดซึมผ่านทางผิวใบเพื่อน้ำไปใช้ในการเจริญเติบโต ต้นหยาดน้ำค้างนั้นมีความสวยงามที่เป็นอกลักษณ์เด่นและมีสีสันอันน่าดึงดูดแต่ความสวยงามนี้กลับเป็นกับดักแห่งความตายของพวกแมลงที่ไม่รู้ถึงชะตาชีวิตของตัวเองเมื่อได้เข้าไปไกล้ต้นของมันหากต้นของมันนั้นมีขนาดใหญ่มากกว่านี้ประมาณ 10 เน่า บอกได้เลยว่าไม่ใช้แค่สัตว์เล็กแน่นอนที่เป็นอันตราย สัตว์ใหญ่ๆจำพวกลิงหรือแม้แต่มนุษย์ก็สามารถถูกพืชชนิดนี้จับมาเป็นอาหารได้อย่างไม่ยากเย็นกันเลย หากธรรมชาตินั้นได้เพิ่มขนาดของมัน ถือเป็นพืขที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก

5.พิงกุย

เหล่านักพฤศาสตร์ มักจะเรียกต้นนี้กันว่าพิงกุย สวยพิฆาตรเพราะมีลักษณะสวยคล้ายกลีบกุกลาบพืชตระกูลนี้ เป็นพืชกินสัตว์ที่มีวิธีการจับเหยื่อที่คล้ายกันกับต้นหยาดน้ำค้างตามบริเวณใบของพิงกุยจะเต็มไปด้วยต่อมเล็กๆที่คอยเป็นประสาทสัมผัสรับรู้เมื่อมีแมลงมาติดกับดัก ต่อมนี้จะผลิตเมือกเหนียวออกมาเพื่อไม่ให้เหยื่อสามารถหนีรอดออกไปได้ เหยื่อจะถูกย่อยและกลายเป็นอาหารไปในที่สุดในแทบสแกนดิเนเวีย จะใช้พิงกุยในการทำให้โยเกิร์ตหรือชีส ช่วยให้กลายเป็นตัวและบางคนก็มีความเชื่อว่าพิงกุยนั้นสามารถป้องกันสิ่งชั่วร้ายจากแม่มดได้อีกด้วย

6.กาบหอยแครง

กาบหอยแครงเป็นพืชกินสัตว์ที่ดักจับแบบตะคลุบและย่อยเยื่อจากที่กินได้ในซึ่งส่วนมากจะเป็นแมลงและแมงกาบหอยแคลงมีโครงสร้างกับดักคล้ายบานผับแบ่งออกเป็นสองกรีบอยู่ที่ปลายใบของแต่ละใบขอบใบมีลักษณะเป็นหนามยาวและมีขนกระตุ้นบางๆบนพื้นผิวด้านในกับดักเมื่อแมลงมาสัมผัสของกระตุ้นสองครั้งกับดักจะหุบเข้าหากันขังแมลงให้ตายลงและถูกย่อยไปเป็นอาหารการที่กาบหอยแคลงต้องการสิ่งกระตุ้นที่ซับซ้อนนี้ก็เพื่อป้องกันการสูญเสียพลังงานไปกับการดักจับสิ่งอื่นๆที่ไม่ใช่อาหารเพราะหากได้สิ่งอื่นเช่นใบไม้ที่หล่นลงมาหรือเศษฝุ่นมันอาจจะสูญเสียพลังงานไปโดยเสียเปล่าจึงทำให้มันต้องพัฒนาระบบกับดักให้รัดกุมและแม่นยำเพื่อผลตอบรับอันสวยงาม เป็นพืชที่มีความวิเศษไปเลยใช้ไหมหละ ไม่น่าเชื่อเลยเนอะว่าพืชจะสามารถสร้างกับดักที่มีแผนการได้ขนาดนี้

Related Posts

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *