สาว ๆ คะ ในยุคสมัยที่ชีวิตประจำวันของเราเต็มไปด้วยความเครียด ไม่ว่าจะทำอะไรก็ต้องเจอภาวะความกดดันอยู่เสมอ ทั้งเรื่องการงาน การเรียน เพื่อน หรือแม้กระทั่งครอบครัว แค่ออกไปข้างนอกบ้านก็ต้องมีเหตุทำให้อารมณ์เสียทุกที ไหนจะอากาศที่ร้อน รถที่ติด จนบางครั้งก็คิดว่าอยากจะนอนอยู่บ้านเฉย ๆ ก็ดันเบื่อห้องตัวเองได้ซะงั้น แล้วสาว ๆ เคยคิดหรือไม่คะว่า หากเราเปลี่ยนห้องของเราที่น่าเบื่อ มาเป็นห้องที่ช่วยทำให้เราสดชื่นด้วยต้นไม้ทุกครั้งที่เปิดประตูเข้ามา มันจะดีแค่ไหนกันนะ ? จริงแล้ว การ แต่งห้อง
Category: ต้นไม้ภายในบ้าน
ต้นไม้บางชนิดสามารถเติบโตได้เอง โดยไม่ต้องดูแลเอาใจใส่มาก โดยเฉพาะพันธุ์ไม้เหล่านี้ที่เป็นไม้ในร่ม ใครที่คิดว่าตัวเองปลูกต้นอะไรก็ไม่รอด จะลองฝีมือปลูกต้นไม้เหล่านี้ดูก็ได้รับรองรอด เพราะโตง่าย ไม่ต้องให้ดูแลมากมาย 1.ว่านหางจระเข้ เป็นพืชที่มีประโยชน์มาก และในฐานะที่ว่านหางจระเข้เป็นพืชอวบน้ำจึงต้องการน้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แต่ต้องการแสงแดดสว่าง และว่านหางจระเข้เป็นพืชที่สามารถเติบโตไปได้เรื่อยๆ เป็นเวลาหลายปีภายในภาชนะเดียวกัน 2.บัวดอย หรือผู้เฒ่าลืมไม้เท้า เป็นต้นไม้ที่ทนทานมากสามารถอยู่รอดได้ทุกสถานการณ์ ไม่ว่าจะแสงน้อย รวมไปถึงสภาพอากาศที่แปรปรวน ได้ทั้งร้อน และหนาว 3.แก้วกาญจนา หรือเขียวหมื่นปี ต้นไม้ที่สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพอากาศต่างๆ ได้เป็นอย่างดี แม้จะชอบอุณหภูมิที่ไม่สูงมากนัก
วันนี้เราจะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับ “ต้นไม้รากอากาศ (Air Plant)” เป็นต้นไม้ที่ปลูกง่าย ไม่ต้องดูแลอะไรมาก ขอแค่มีแสงแดด น้ำ อากาศ และมีที่ให้ยึดเกาะก็เติบโตได้แล้ว ไม้รากอากาศ มีความอึดเหมือนต้นแคคตัส และที่สำคัญคือไม่ต้องใช้ดินในการปลูก แถมยังสวยและใช้ประดับบ้านของเราให้สดชื่นเหมือนต้นไม้ทั่วๆ ไปได้อีกด้วย วันนี้เราจะจะมาแนะนำต้นไม้รากอากาศให้เพื่อนๆ ได้รู้จักกันว่ามีต้นอะไรบ้าง และมีวิธีการเลี้ยงดูกันอย่างไร ถ้าพร้อมแล้วมาดูกันเลย ทิลแลนด์เซีย (Tillandsia ionantha Planch) ต้นไม้รากอากาศต้นแรกที่จะมาแนะนำนั่นก็คือ ทิลแลนด์เซีย (Tillandsia) หรือสับปะรดอากาศ เป็นไม้ในวงศ์ของสับปะรดสี
จะพาเพื่อนๆ มาทำความรู้จักกับต้นไม้ที่กระแสกำลังมาแรงอีกต้นเลยทีเดียว เรียกได้ว่าทั้งสวยช่วยฟอกอากาศ แถมยังมีผลทางใจ ช่วยเรื่องโชคลาภ กวักเงินกวักทองเข้าบ้าน ไม่รู้จักไม่ได้แล้ว นั่นก็คือเจ้าต้น “กวักมรกต” นั่นเอง เชื่อว่าหลายๆ บ้านต้องมีติดบ้านกันอยู่บ้างแหละ สำหรับใครที่ไม่รู้จักว่าหน้าตามันเป็นยังไง ปลูกยังไง ดูแลยังไง หาซื้อได้ที่ไหน ถ้าอ่านจบแล้วต้องอยากหามาปลูกไว้ในบ้านแน่นอนจ้า “ กวักมรกต ” คืออะไร ? กวักมรกต เป็นไม้หัวขนาดเล็ก ลำต้นเรียวยาว
ในยุคที่ต้นไม้อย่าง “แคคตัส” กลายเป็นต้นไม้ที่ได้ความนิยมเป็นอย่างมาก ที่ไม่ว่าจะมองไปทางไหน ใครๆก็ปลูกแคคตัสกัน ทั้งปลูกเพื่อประดับตกแต่ง หรือขยายพันธุ์เพื่อสะสมเป็นงานอดิเรก วันนี้จะมาแนะนำเคล็ดลับดีๆ ของเจ้าแคคตัสไม้จิ๋วแสนน่ารักนี้ ว่านอกจากจะตั้งประดับตกแต่งเพิ่มความสวยแล้ว เจ้าแคคตัสของเรายังสามารถสร้างรายได้เสริมให้เราได้ง่ายๆ และทำได้จริงอีกด้วย ก่อนอื่นเลยเราต้องรู้จักสายพันธุ์ต่างๆของแคคตัส ว่าแคคตัสสายพันธุ์ไหนเป็นที่นิยมของตลาด ราคากลางที่จำหน่ายกันทั่วไป เพื่อที่จะได้ให้คำแนะนำลูกค้าของเราได้ ว่าแคคตัสของเราแต่ละสายพันธุ์ชื่ออะไร จุดเด่นของแต่ละสายพันธุ์ เลี้ยงอย่างไร และดูแลอย่างไร ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะเป็นการสร้างแรงดึงดูดให้ลูกค้ามีความสนใจที่จะอยากเลี้ยง และซื้อแคคตัสจากเราไปเลี้ยง แล้วเราจะขายที่ไหนดี? ขายที่ไหนได้บ้าง? น่าจะเป็นคำถามยอดฮิตเลยก็ว่าได้ ซึ่งในปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้เราเข้าถึงตลาดออนไลน์มากขึ้น การหารายจากแคคตัสได้ผ่านช่องทางออนไลน์ครับ ซึ่งมีหลายหลายช่องทางมากๆ
ไม้คริสตาตัส (Cristatus) หรือคริสตาต้า (Cristata cactus) หรือที่นิยมเรียกกันติดปากว่า ไม้คริส ไม่ได้แปลกแค่ชื่อ แต่ลักษณะต้นเองก็แปลกตาและมีเอกลักษณ์พิเศษไม่แพ้กัน ซึ่งจริงๆ แล้วคริสตาต้าเกิดจากการผิดรูปด้วยธรรมชาติ เป็นความผิดปกติในการเจริญเติบโตบริเวณยอด โดยมีการโตออกทางด้านข้าง ทำให้มีลักษณะคล้ายพัดหรือหงอนไก่ แถมยังมีพูออกมาเยอะด้วย ที่สำคัญคือต้นค่อนข้างใหญ่ แต่ละต้นก็มีลักษณะแตกต่างกันออกไป แต่ก็ยังคงความสวยงามแปลกตา และที่สำคัญยิ่งสวยยิ่งด่าง ราคายิ่งแพง ด้วยรูปลักษณ์ที่แปลกตา และราคาที่พุ่งสูง หลายคนเลยเริ่มสนใจอยากซื้อมาลองเลี้ยงกันแล้ว (อย่าลืมคำนึงถึงเงินในกระเป๋าด้วยนะครับ) เมื่อเราได้ไม้คริสมาระยะหนึ่งแล้ว หมั่นสังเกตและลองยกกระถางดู ถ้าเห็นรากเริ่มโผล่พ้นกระถางออกมา นั่นคือสัญญาณว่าเค้าเริ่มโตขึ้นแล้ว
ใครที่กำลังเจอปัญหา !! พื้นที่น้อยแต่อยากปลูกต้นไม้บ้างคะ ทั้งหอพัก คอนโด ทาวน์โฮม หรือบ้านเดี่ยวต่างๆ จะต้องเจอปัญหานี้กันบ้างแหละ วันนี้สวนหลังบ้านของเราเลยจะมาแนะนำไอเทมดีๆ ที่แสนจะประหยัดที่กันกับ “5 ไม้แขวน เอาใจคนรักสวน ที่น้อยแค่ไหนก็ปลูกได้” รับรองว่าเพื่อนๆ จะถูกใจแน่นอน แล้วจะมีต้นอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย เดฟกระดุม(Dischidia Nummularia) “เดฟกระดุม” ลำต้นเป็นเถาสีเขียวขนาดเล็ก ใบออกเรียงเป็นคู่ๆ ใบกลม ต้นเดฟกระดุมสามารถเลื้อยทอดตัวได้ยาว ยิ่งปล่อยให้เลื้อยลงมายาวๆ ยิ่งสวย เหมาะสำหรับปลูกในกระเช้าหรือกระถางแขวน
กลับมาแล้วกับสวนหลังบ้านหลังจากห่างหายกันไปนาน วันนี้สวนหลังบ้านจะพาทุกคนมาทำความรู้จักกับต้นไม้ที่ดังมากในต่างประเทศ แต่ในไทยน้อยคนที่จะรู้จัก นั่นก็คือต้น “ไพเลีย” ถ้าใครที่เห็นแวบแรกต้องคิดว่ามันเป็นต้นใบบัวบกแน่ๆ เหมือนกันมาก แต่ก็เหมือนแค่ใบ เพราะไพเลียไม่ได้มีสรรพคุณทางยา แต่เป็นต้นไม้ที่ถูกบรรจุไว้เป็นหนึ่งในต้นไม้มงคล ช่วยเรียกเงินทอง โชคลาภ และพลังบวกเข้ามาสู่บ้าน (อีกแล้ว 555+) ด้วยความน่ารักบวกกับไปไม้มงคล แถมปลูกในบ้านได้อีก ดีงามขนาดนี้รีบหามาไว้ติดบ้านกันเลย “ไพเลีย” คืออะไร? ไพเลีย Pilea Peperomioides หลายคนอาจจะรู้จักในชื่อต้นแพนเค้ก หรือต้นเหรียญเงิน มีต้นกำเนิดมาจากเทือกเขาในมณฑลยูนนาน และเริ่มแพร่หลายในประเทศนอร์เวย์
มลพิษ ฝุ่นละอองในอากาศ หรือ สารพิษต่าง ๆ ทำให้เราดูแลตัวเองมากขึ้น เครื่องกรองอากาศ เครื่องฟอกอากาศขายดิบขายดีมากขึ้น จนขาดตลาด ราคาพุ่งสูงขึ้น แต่หลายคนลืมไปว่า ธรรมชาติ หรือ ต้นไม้ที่อยู่รอบตัวเรา คือ เครื่องฟอกอากาศชั้นดี และต้นไม้หลายชนิด ยังเป็น “ต้นไม้ไล่ภูมิแพ้” เพราะนอกจากช่วยกรองอากาศ ยังช่วยดูดสารพิษได้อีกด้วย สาเหตุสำคัญอาการภูมิแพ้ คือ สิ่งแวดล้อม ที่เป็นสารก่อภูมิแพ้ ที่กระตุ้นให้เกิดอาการภูมิแพ้ขึ้นมาได้
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงอยากจะลองปลูกต้นไม้สวย ๆ เอาไว้ที่บ้านสักต้น แต่ด้วยความที่เป็นที่มือร้อนและใจร้อนจึงทำให้ต้นไม้ที่เราซื้อมาปลูกนั้นต้องล้มตายไปอย่างน่าเสียดาย วันนี้เราจะมาแนะนำ ต้นทิลแลนเซีย ที่เป็นต้นไม้ที่สามารถมีชีวิตโดยการใช้ รากอากาศ ในการจับยึดกับสิ่งต่าง ๆ เพื่อใช้ใบในการดักจับสารอาหารที่อยู่ในอากาศ โดยข้อดีของการเลี้ยง ต้นทิลแลนเซีย มันดีตรงที่ว่า เราไม่ต้องปลูกลงดินหรือใช้วัสดุปลูกใด ๆ เลยเพียงแค่เรานำไปวางในกระถางหรือในตะกร้าสวย ๆ สักใบเจ้า ต้นทิลแลนเซีย ก็สามารถใช้ชีวิตอยู่ได้อย่างสบาย ๆ ต้นทิลแลนเซีย ที่ออกดอกในช่วงฤดูหนาว มีวิธีการดูแลง่ายมากๆ ส่วนวิธีการดูแล ต้นทิลแลนเซีย นั้นก็มีวิธีที่ง่ายมาก ๆ โดยเราแค่รดน้ำให้เขาเพียงแค่อาทิตย์ล่ะครั้ง ซึ่งน้ำที่ให้ควรใส่ขวดแบบสเปร์ยแล้วฉีดในแบบละออง ๆ ที่ไม่เยอะจนเกินไป เพราะถ้าให้น้ำเยอะอาจจะทำให้ ต้นทิลแลนเซีย เกิดโรคเน่าตรงบริเวณหัวและตรง รากอากาศ ได้