ในการปลูกแคคตัสหรือต้นไม้นั้น สิ่งสำคัญที่คนปลูกจะให้ความสำคัญอันดับต้นๆ ก็คือดินที่ใช้ปลูกแคคตัสนั่นเองครับ วันนี้สวนหลังบ้านเลยจะมาชวนคุยกันเรื่อง “พีทมอส (Peat Moss)” ที่นิยมนำมาใช้เพาะเมล็ด และเป็นส่วนผสมในวัสดุปลูกกัน
“พีทมอส” คืออะไร?
![](https://banton-mai.com/wp-content/uploads/2021/10/peat-moss-1-1024x683.jpg)
เพื่อนๆ เคยสงสัยไหมว่า “พีทมอส (Peat Moss)” ที่เป็นเหมือนดินละเอียดๆ นี้คืออะไร ความจริงแล้วพีทมอส เกิดจากคำว่า Peat คือซากพืชซากสัตว์ที่ทับถมกันมานาน และคำว่า Moss คือพืชจำพวกมอส มีหลากหลายสายพันธุ์ โดยเฉพาะมอสตระกูลสแฟคนั่มพีทมอส (Sphagnam) ที่ตายแล้ว เกิดการทับถมกันมาเป็นเวลาหลายพันปี เราจะพบพีทมอสอยู่ชั้นล่างของสแฟคนั่มมอสที่ยังมีชีวิต การที่จะเกิดพีทมอสได้หนาประมาณ 2-3 ฟุต ต้องใช้เวลาสะสมและย่อยสลายกว่าพันพันปีเลยนะ
โดยพีทมอสจะมีอยู่มากในแถบที่อากาศหนาว อย่างสถานที่ หรือและประเทศเมืองหนาว เช่น รัสเซีย และแคนาดา เป็นต้น นอกจากนี้พีทมอสในธรรมชาติ มีเพียง 3% เท่านั้น เมื่อเทียบกับพื้นดินบนโลก การขุดพีทมอสจึงเป็นเรื่องที่เคร่งครัดในหลายๆ ประเทศ แต่เนื่องจากสภาพอากาศของประเทศไทยเป็นเมืองร้อน ดังนั้นพีทมอสที่เราใช้กันนั้นจึงเป็นการนำเข้าจากต่างประเทศทั้งสิ้น ทำให้พีทมอสมีราคาสูงกว่าดินทั่วไป
ลักษณะและประเภทของพีทมอส
![](https://banton-mai.com/wp-content/uploads/2021/10/peat-1024x739.jpg)
พีทมอสมีลักษณะเป็นเส้นใยสีน้ำตาลอ่อนจนถึงสีดำ คล้ายขุยมะพร้าว มีคุณสมบัติรักษาความชื้นได้ดี ร่วนซุยไม่ติดกันเป็นก้อน น้ำไหลผ่านได้ดี และเป็นวัสดุที่ต่อต้านเชื้อรา โดยพีทมอส แบ่งแต่ละประเภทด้วยระดับความทับถมเป็นชั้นๆ ซึ่งแบ่งได้ 3 ประเภทใหญ่ๆ คือ
- White Peat (สีน้ำตาลอ่อน) เป็นพีทที่อายุการทับถมน้อยสุด ลักษณะเนื้อโดยธรรมชาติจะมีความหยาบ นิยมนำมาใช้เป็นส่วนประกอบในการปลูกแคคตัส
- Brown Peat (สีน้ำตาล) เป็นพีทที่พบในความลึกระดับกลาง มีลักษณะตรงกลางระหว่าง White Peat และ Black Peat โดยจะเห็นเส้นใยมอสในเนื้อวัสดุ
- Black Peat (สีน้ำตาลเข้มจนถึงดำ) เป็นพีทที่พบในส่วนลึกสุด จะมีสีน้ำตาลจนถึงดำ เนื้อมีความละเอียดสูง เมื่อเปียกน้ำจะเก็บความชื้นได้นาน ทำให้การระบายน้ำและอากาศไม่ดี จึงไม่เหมาะสำหรับปลูกแคคตัส
ทั้งนี้คุณสมบัติที่ต่างกันของพีท คือความสามารถในการดูดซับความชื้น พีทสีดำจะมีความสามารถในการดูดซับความชื้นสูงที่สุด มีคุณสมบัติเป็น Humus สูงที่สุด จึงไม่เหมาะที่จะนำมาแปรรูปเป็นปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อใช้ในการเกษตรและปลูกแคคตัส นอกจากนี้พีทสีดำยังมีราคาสูงที่สุดด้วย เพราะใช้ต้นทุนในการขุดเจาะเยอะ เนื่องจากถูกทับอยู่ชั้นล่างสุด ต่ำกว่าชั้นผิวดินหลายร้อยเมตร จึงไม่นิยมนำมาใช้ในการเกษตร แต่นิยมนำมาทำเป็นเชื้อเพลิงในการผลิตพลังงานให้ความร้อนในบ้านเรือนและอุตสาหกรรมทั่วไป
ข้อดีของพีทมอส
![](https://banton-mai.com/wp-content/uploads/2021/10/peat-moss-3-1200x797-1-1024x680.jpg)
1. เป็นวัสดุปลูกพืชและแคคตัสที่สะอาด ปราศจากแมลง เชื้อโรค เชื้อราและแบคทีเรีย มีแร่ธาตุที่จำเป็นเพียงพอสำหรับการเจริญเติบโตของแคคตัส เก็บความชื้นได้ดี และปลดปล่อยออกมาให้ต้นไม้อย่างช้าๆ ลดปัญหาการสลายตัวของธาตุอาหาร เป็นตัวให้ปุ๋ยอย่างช้าๆ ช่วยประหยัดปุ๋ย ช่วยปกป้องความแน่นแข็งของดิน และช่วยเติมอินทรียวัตถุในเนื้อดินให้มีสารอาหารครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
2. ช่วยเร่งการทำปุ๋ยหมัก ลดการเกิดกลิ่นเหม็นและช่วยควบคุมการถ่ายเทอากาศและน้ำในกองปุ๋ยหมัก
3. ช่วยเพิ่มอากาศในดิน ปรับให้ดินร่วนซุย ช่วยในการถ่ายเทน้ำและอากาศได้สะดวกเมื่อใช้กับดินทราย ช่วยเพิ่มเนื้อดิน ปรับให้ดินเก็บรักษาธาตุอาหารและความชื้นรวมไปถึงลดการชะล้างธาตุอาหารของน้ำด้วย
ข้อเสียของพีทมอส
![](https://banton-mai.com/wp-content/uploads/2021/10/peat-mos-1024x678.jpg)
1. พีทมอส เก็บความชื้นได้ดี จึงไม่เหมาะกับการนำไปปลูกแคคตัสที่ไม่ชอบความชื้น เช่น กุหลาบหิน ไม้อวบน้ำต่างๆ ควรผสมพีทมอสกับวัสดุปลูกชนิดอื่น เช่น ทรายหรรือหินภูเขาไฟ เพื่อไม่ให้วัสดุปลูกอุ้มน้ำจนเกินไป ซึ่งอาจจะทำให้ต้นไม้ที่ไม่ชอบความชื้นตายได้
2. ราคาพีทมอสสูง เนื่องจากไม่สามารถผลิตได้ภายในประเทศ จึงจำเป็นต้องนำเข้ามาจากต่างประเทศเท่านั้น
บทความแนะนำ