ต้นตีนเป็ด หรือ พญาสัตบรรณ ที่หลายคนบอกว่ามันเป็นสัญญาณการมาถึงของฤดูหนาวในไทย เอกลักษณ์ของมันคือกลิ่นของดอก บางคนก็บอกว่าหอม บางคนก็บอกว่าเหม็นจนชวนเวียนหัว หากมองข้ามเรื่องกลิ่นของดอกไป รู้มั้ย? ว่าต้นตีนเป็ดมีประโยชน์ที่ดีต่อสุขภาพหลายประการ ไม่ว่าจะเป็นใบ เปลือก ต้น ใบ น้ำยาง ล้วนแล้วแต่มีสรรพคุณทางยา ในบทความนี้ขอรวบรวมประโยชน์มาให้ได้อ่านกันค่ะ
เป็นอีกหนึ่งต้นไม้สำคัญในเมืองใหญ่ เรามักเริ่มได้กลิ่นตั้งแต่ราวๆ เดือนตุลา หรือเวลาไปลอยกระทงเดือนพฤศจิกายนเป็นต้นไม้เมืองร้อน โตง่าย ทนทาน ใบหนาให้ร่มเงาได้ดี จึงไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ เท่านั้นที่ปลูก (และมีปัญหากับกลิ่นประหลาดนี้) ที่กรุงเดลีของอินเดียเองก็มีประเด็นกับเจ้ากลิ่นอวลในเมืองใหญ่นี้เช่นกันเป็นต้นไม้ใหญ่ริมทาง ด้วยกลิ่นอันล้ำลึกทำให้มีฉายาว่าต้นไม้ของปีศาจ (devil tree) ในขณะที่ชื่อในภาษาสันสกฤตที่อินเดีย เรียกว่า Saptaparni ซึ่งก็เป็นรากศัพท์ความหมายเดียวกันกับคำว่า ‘สัตบรรณ’ อันหมายถึงใบไม้เจ็ดใบของไทยเป๊ะๆ
![](https://banton-mai.com/wp-content/uploads/2021/06/861ae0493e525aac7464ea28e04139e7.jpg)
ที่อินเดียส่วนใหญ่มองว่าต้นตีนเป็ดนั้นหอม ชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Alstonia scholaris เหมือนกับคำว่า Scholar เป็นต้นไม้ที่เกี่ยวข้องภูมิรู้และสติปัญญา บางคนถึงกับบอกว่ากลิ่นของมันทำให้นักปราชญ์มีสมาธิและความแตกฉาน แต่สำหรับเมืองใหญ่ทั้งอินเดียและไต้หวันเองก็เกิดประเด็นปัญหาจากกลิ่นที่ฟุ้งเกินไปของพวกมันเหมือนกัน
สรรพคุณของพญาสัตบรรณ
- เปลือกต้นมีรสขม ใช้เป็นยาขมช่วยให้เจริญอาหาร (เปลือกต้น)
- เปลือกต้นสัตบรรณมีสรรพคุณช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือด รักษาโรคเบาหวาน (เปลือกต้น)
- น้ำยางจากต้นใช้หยอดหูแก้อาการปวดหูได้ (ยาง)
- น้ำยางจากต้นใช้อุดฟันเพื่อแก้อาการปวดฟันได้ (ยาง)
- ใบอ่อนใช้ชงดื่ม ช่วยรักษาโรคเลือดออกตามไรฟันหรือโรคลักปิดลักเปิดได้ (ใบ)
- เปลือกต้นใช้แก้หวัด แก้อาการไอ รักษาหลอดลมอักเสบ (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้ไข้ (เปลือกต้น,ใบ)
- ดอกช่วยแก้ไข้เหนือ ไข้ตัวร้อน (ดอก)
- เปลือกต้นต้มน้ำดื่ม สรรพคุณช่วยรักษาโรคมาลาเรีย (เปลือกต้น)
- ช่วยแก้โลหิตพิการ (ดอก)