7ผักสมุนไพร ประโยชน์มากมี ที่ปลูกในคอนโดได้

ในยุคที่หลายคนเริ่มใส่ใจสุขภาพ เพราะปัจจุบันมีคนป่วยกันง่ายขึ้น ทั้งยังต้องระวังเรื่องโควิด 19 การดูแลสุขภาพจึงเป็นเรื่องสำคัญ โดยเริ่มจากเรื่องอาหารการกินและหันมาทานพืชผักสวนครัว สมุนไพรกันมากกว่าเดิม ในวันนี้เราจะมาแนะนำ 7 ผักสมุนไพร ที่สามารถ ปลูกในกระถาง และใช้พื้นที่ในคอนโดในการปลูก มารู้จัก “ต้นจั๋ง” ไม้ฟอกอากาศสุดฮิต ที่ไม่ได้มีดีแค่ใบสวย แบบที่ดูแลง่ายและทำให้สมุนไพรเหล่านั้นเติบโต นำมารับประทานได้อย่างถูกสุขลักษณะ ไปดูพร้อมกันเลยค่ะ

สะระแหน่ หรือ มินต์ (Mint / Mentha)

สะระแหน่มีต้นกำเนิดมาจากยุโรป และถูกนำเข้ามาในประเทศไทยในสมัยรัชการที่ 3 โดยชาวอิตาเลี่ยน ที่มีชื่อว่าสะระนี จึงตั้งข้อสันนิษฐานว่าชื่อสะระแหน่นี้ น่าจะมาจากชื่อของนายสะระนีนั่นเอง เป็นผักสมุนไพรที่คนไทยส่วนใหญ่คุ้นเคยกันดี และมีคนไทยหลายคนเข้าใจว่าเป็นพืชผักสมุนไพรไทยแท้ ลักษณะของลำต้นจะเป็นพืชล้มลุก ความสูงเมื่อโตเต็มที่ประมาณ 15-35 เซนติเมตร เป็นใบเดี่ยวเรียงสลับกัน ปลายใบแหลม ขอบหยัก ออกดอกเป็นช่อขนาดเล็กสีขาวอมเหลือง นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือการปักชำ เหมาะกับดินที่มีการระบายอากาศและน้ำได้ดี การรดน้ำในช่วงระยะที่กิ่งกำลังเพาะชำ ควรรดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง แล้วเมื่อพ้นระยะเวลาประมาณ 45-50 วัน ค่อยเปลี่ยนมารถน้ำวันเว้นวัน และต้องการแสงแดดปานกลาง

สำหรับสะระแหน่มีจุดเด่นในเรื่องของกลิ่นหอม สดชื่น มีรสชาติเย็น จึงมีผู้นิยมนำมาเป็นส่วนผสมของอาหาร ตกแต่ง หรือสกัดเพื่อนำมาทำเครื่องหอมหลายประเภท นอกจากจะมีสรรพคุณเป็นยาขับลม แก้คลื่นไส้ อาเจียน ปวดท้อง และเวียนศีรษะแล้ว ยังมีคุณค่าทางโภชนาการการทางอาหารสูง (ในปริมาณ 100 กรัม) โดยเฉพาะโปรตีน แคลเซียม วิตามินเอ และวิตามินซี

ออริกาโน่ (Oregano)

ออริกาโน่มีถิ่นกำเนิดแถบเนินเขาของเมดิเตอร์เรเนียนและเอเชียตะวันตก เป็นอีกหนึ่งผักสมุนไพรที่ควรปลูกไว้ เพราะมีสรรพคุณทางยาเพียบ นิยมนำมาประกอบอาหารที่หลายคนชอบทานอย่างพิซซ่า ลักษณะเป็นไม้ล้มลุกทรงพุ่ม มีขนาดเล็ก และมีอายุประมาณ 2-3 ปี ใบเดี่ยวคล้ายรูปหัวใจ ขอบหยัก ก้านยาว มีกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณะเฉพาะตัว นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและชำกิ่ง สามารถเติบโตได้ดีในดินทุกชนิด แต่ถ้าจะให้ดีควรใช้ดินที่ร่วนซุยเป็นพิเศษ หากต้องการปลูกหลายต้น ควรปลูกให้ห่างกันประมาณ 20×20 เซนติเมตร ผักสมุนไพร ชนิดนี้ชอบแสงแดดจัด และต้องการการรดน้ำทุกเช้าเย็น

การเก็บเกี่ยวของผักสมุนไพรชนิดนี้ หากอยากให้ลำต้นสร้างยอดขึ้นใหม่เป็นพุ่มสวย ควรเก็บเกี่ยวที่ปลายลำต้นอย่างระมัดระวัง โดยการใช้กรรไกรตัด ควรทิ้งใบเฉลี่ยสี่และหกคู่เสมอ เพื่อให้ต้นออริกาโน่สร้างยอดใหม่ได้อีกครั้งอย่างสวยงาม และเมื่อตัดมาแล้ว ควรวางไว้บนภาชนะและในห้องที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะนี้คือจุดสำคัญที่จะทำให้รสชาติของออริกาโน่เข้มข้น

ออริกาโน่มีสรรพคุณแก้จุกเสียดแน่นท้อง ช่วยขับลมจากลำไส้ แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยทำให้เจริญอาหารมากขึ้น ส่วนคุณค่าทางโภชนาการนั้น ออริกาโน่มีวิตามินเอ ซี อี เค และวิตามินบี 6 นอกจากนี้ยังมีไฟเบอร์ โฟเลต เหล็ก แคลเซียม แมกนีเซียม จึงเหมาะที่จะเป็นอาหารเพื่อสุขภาพอย่างยิ่ง

เสจ (Sage)

เสจมีถิ่นกำเนิดมาจากแถบยุโรป และเมดิเตอร์เรเนียน จัดได้ว่าเป็นผักสมุนไพรตะวันตกยอดนิยม ที่ให้ประโยชน์และมีสรรพคุณทางยาที่หลากหลาย ลักษณะเป็นไม้พุ่ม มีความสูงประมาณ 15-45 เซนติเมตร เป็นพืชอวบน้ำ ก้านใบยาว เนื้อใบมีความนุ่ม เมื่อขยี้จะมีกลิ่นหอม นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดและการตัดกิ่ง เติบโตได้ดีในดินร่วนปนทราย ผักสมุนไพร ชนิดนี้ชอบอยู่ในอากาศที่ถ่ายเทและมีแสงแดดรำไร จึงควรปลูกใกล้หน้าต่าง และรดน้ำเฉพาะเวลาที่ดินแห้ง

มีสรรพคุณช่วยลดแก๊สในกระเพาะอาหาร ปรับสมดุลของฮอร์โมนระหว่างมีประจำเดือน และช่วยแก้เรื่องลมหายใจเหม็น ต้นเสจ เป็นเครื่องเทศสมุนไพรคู่ควรเหมาะแก่การปลูก เพราะมีผู้คนนิยมนำมาปรุงอาหารประเภท ปิ้งย่าง การหมักเนื้อสัตว์ต่าง ๆ เพราะเป็นเครื่องเทศที่มีกลิ่นหอม และช่วยดับกลิ่นคาวได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ใบเสจยังถูกนำมาสกัดเพื่อมาทำเป็นน้ำมันหอมระเหยที่มีความหอมโดดเด่น และยังช่วยยับยั้งเชื้อราและแบคทีเรียได้ดีอีกด้วย

ลาเวนเดอร์ (Lavender)

 เป็นผักสมุนไพรอยู่ในวงศ์มิ้นต์ มีถิ่นกำเนิดจากตอนใต้ของยุโรปที่มีคนชอบมาก เพราะมีดอกสีม่วงสวยงามและมีกลิ่นหอม เป็นไม้ล้มลุก มีลำต้นสูงประมาณ 1-1.5 ฟุต ลักษณะของใบเป็นใบหอก ขอบใบหยักฟันเลื่อย มีสีเขียวเหลือบเงิน ชอบอากาศเย็น นิยมขยายพันธุ์ด้วยการเพาะเมล็ดหรือปักชำกิ่งและเหมาะกับดินร่วนปนทรายที่มีการระบายน้ำได้ดี ไม่ค่อยชอบความชื้น จึงไม่ควรรดน้ำบ่อย และชอบแสงแดดจัด

ผู้คนนิยมนำไปสกัดเป็นน้ำมันหอมระเหย ไม่ว่าจะเป็นเทียนหอม น้ำหอม เพราะช่วยในเรื่องลดความกังวล ผ่อนคลาย จิตใจสงบ ทำให้นอนหลับสบายง่ายขึ้น และยังช่วยไล่ยุงหรือแมลงได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้สารสกัดจากลาเวนเดอร์ยังมีสรรพคุณช่วยรักษารังแคและผมร่วงได้ ได้มีงานวิจัยพบว่าน้ำมันหอมระเหยเมื่อนำมาทานวดบนศรีษะเป็นประจำ จะช่วยลดอากาศผมร่วงและทำให้มีผมงอกขึ้นมาใหม่ได้ภายใน 7 เดือน แล้วก็ยังบรรเทาอาการคันหรือบวมแดงตามผิวหนัง รวมไปถึงช่วยรักษาสิวและอาการสิวอักเสบได้อีกด้วย

โรสแมรี่ (Rosemary)

 โรสแมรี่มีถิ่นกำเนิดแถบทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และนิยมปลูกกันทั่วไปในประเทศฝรั่งเศส สเปน อิตาลี เป็นผักสมุนไพรที่มีกลิ่นหอมอ่อน ๆ ละมุน หากนำมาตกแต่งสวนก็จะดูสวยงามสบายตาเพราะบางต้นที่โตเต็มที่มีความสูงถึง 3 เมตร ดอกและใบมีกลิ่นหอมที่คล้ายการบูร ลักษณะเป็นไม้พุ่ม สูงประมาณ 1-2 เมตร ใบเรียวยาวคล้ายใบเข็ม ก้านใบสั้น ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ มีหลายสี เช่น สีม่วง สีฟ้า สีชมพู และสีขาว ผักสมุนไพรชนิดนี้นิยมขยายพันธุ์ด้วยการปักชำหรือการเพาะเมล็ด สำหรับดินที่ใช้ปลูกควรผสมพีทมอสและกรวดหยาบ สามารถอยู่กลางแดดจัดได้ สำหรับการรดน้ำควรรด 3-4 ครั้งต่อสัปดาห์ และให้รดบริเวณโคนต้นเฉพาะเวลาที่ดินแห้งเท่านั้น

สามารถนำมาปรุงอาหารได้หลากหลาย และใช้เป็นสมุนไพร บางพื้นที่ยังนิยมใช้กลิ่นมาเป็นเครื่องหอมในพิธีสำคัญ ๆ อย่างงานแต่งงาน งานมงคล สำหรับการนำมาประกอบอาหารนั้น  เป็นผักสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยบำรุงสมอง ปาก ผิว เป็นพืชร้อน มีสรรพคุณบรรเทาอาการหนาวเย็นและเป็นไข้  กลิ่นของต้นยังสามารถไล่ยุงและแมลงได้ด้วย

ไธม์ (Thyme)

มีถิ่นกำเนิดในประเทศสหรัฐอเมริกาและยุโรป เป็นผักสมุนไพรฝรั่งที่นิยมนำมาเป็นเครื่องเทศและมีประวัติมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่สมัยอียิปต์และกรีกโบราณ เพราะในสมัยนั้นได้มีการใช้ต้นไธม์ในงานพิธีทางศาสนาด้วย และยังมีการนำมาใช้ปรุงแต่รสของชีสและสุรา โดยสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ทั้งแบบต้นสดและต้นแห้ง ลักษณะของต้นไธม์ เป็นลำต้นเตี้ย กลม เป็นไม้พุ่มขนาดเล็ก มีกลิ่นหอมเฉพาะตัว ออกดอกเล็ก ๆ เป็นช่อบริเวณปลายกิ่งมีหลายสี เช่น สีม่วง สีชมพู และสีขาว เป็นผักสมุนไพรที่นิยมขยายพันธุ์ด้วยการชำกิ่งและเพาะเมล็ด สามารถเติบโตได้ในดินทุกชนิด แต่จะชอบดินร่วนซุยเป็นพิเศษ เพราะมีการระบายน้ำได้ดี ชอบแสงแดดจัดตลอดวัน และควรรดน้ำพอชุ่มทั้งเช้าและเย็น

ต้มไธม์มีสารอาหารและมีสรรพคุณทางยาเยอะ ไม่ว่าจะเป็นช่วยบรรเทาอาการท้องอืดท้องเฟ้อ กระตุ้นระบบย่อยอาหารให้ทำงานดีขึ้น และยังแก้วิงเวียนศีรษะ ขับเหงื่อ และคลายอาการเกร็งของกล้ามเนื้อ ทั้งยังป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย

กะเพรา (basil)

กะเพรา เป็นพืชพื้นเมืองเขตร้อน มีต้นกำเนิดมาจากทวีปเอเชียและแอฟริกา แต่โดยส่วนมากจะพบในแถบเอเชียใต้และตะวันออกเฉียงใต้ มีลักษณะต้นเป็นทรงพุ่ม ลำต้นเดี่ยว ลักษระทรงกลม ก้านมีขนเล็ก ๆ เป็นผักสมุนไพรสุดคลาสสิคที่อยู่คู่คนไทยมานาน อย่างกะเพรา เพราะนิยมนำเอามาทำอาหารมากที่สุด และเป็นพืชที่ปลูกง่ายที่สุด เพียงแค่โรยเมล็ดลงในดินรดน้ำเพียงเล็กน้อย ใช้เวลารอไม่กี่วันต้นอ่อนก็งอกขึ้นมาแล้ว แต่หากใครไม่อยากเสียเงินซื้อเมล็ดกะเพรามาปลูก ก็สามารถนำกิ่งจากต้นมาปักชำได้เลย วิธีการก็คือเด็ดส่วนยอดออก แล้วปักลงดินแนวเฉียงประมาณ 45 องศา ต้นกะเพราสามารถปลูกให้ต้นโตได้สูงสุดประมาณ 1 เมตร หากปลูกในคอนโดควรใช้กระถางทรงกลม มีเส้นผ่าศูนย์กลาง 8-12 นิ้ว ตั้งวางบนระเบียงรับลมรับแดดเพราะสำหรับต้นกะเพราแล้ว เป็นผักสมุนไพรที่มีความแข็งแรง สามารถทนอยู่ได้ทุกสภาพอากาศ แต่ถ้าได้โดนแสงแดดบ่อย ๆ จะทำให้ต้นโตไวขึ้น กะเพราเป็นพืชล้มลุกสามารถเก็บกินใบอ่อนได้เมื่อมีอายุ 20 วัน และเก็บใบนำไปทานอาหารได้เรื่อย ๆ ตลอดทั้งปี

กะเพราะมีสรรพคุณช่วยสร้างความอบอุ่นให้กับร่างกาย ช่วยขับลมในกระเพาะ แก้อาการจุกเสียดแน่นท้อง แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน และยังป้องกันโรคหวัดได้ดี

Related Posts

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *